logo website

มาตรการการให้ความช่วยเหลือ อุดหนุน วิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม “SME ปัง ตังได้คืน” ภายใต้โครงการส่งเสริมผู้ประกอบการผ่านระบบ BDS ปีงบประมาณ 2565

21/07/2022 | ข่าวแนะนำ

สำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) ได้ดำเนินมาตรการการให้ความช่วยเหลือ อุดหนุน วิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม “SME ปัง ตังได้คืน” ภายใต้โครงการส่งเสริมผู้ประกอบการผ่านระบบ BDS หรือ (Business Development Service) ปีงบประมาณ 2565 โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมและสนับสนุนผู้ประกอบการ SME ให้ได้รับโอกาสในการเข้าถึงการบริการสนับสนุนด้านการพัฒนาธุรกิจในรูปแบบใหม่

ที่ผู้ประกอบการ SME จะสามารถเลือกรับการบริการ หรือรับการพัฒนากับผู้ให้บริการทางธุรกิจ (Business Development Service Provider : BDSP) ในด้านที่ตรงกับความต้องการของธุรกิจของตน ซึ่งผู้ประกอบการ SME สามารถยื่นข้อเสนอเพื่อขอรับการบริการและการพัฒนาในด้านต่าง ๆ เช่น ด้านการพัฒนาคุณภาพและมาตรฐานสินค้าและบริการ หรือบริการด้านการพัฒนาช่องทางการจำหน่ายและการตลาดทั้งในประเทศและต่างประเทศ จากผู้ให้บริการทางธุรกิจ (BDSP) ที่ได้ขึ้นทะเบียนไว้ผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ https://bds.sme.go.th และหลังจากการพัฒนาเสร็จสิ้น ผู้ประกอบการสามารถยื่นเอกสารเพื่อขอรับเงินช่วยเหลืออุดหนุนค่าใช้จ่ายในการพัฒนาแบบร่วมจ่าย (co-payment) จาก สสว. ในสัดส่วนร้อยละ 50 – 80 ตามขนาดของธุรกิจ สูงสุดไม่เกินรายละ 200,000 บาท

การสมัครเข้าร่วมโครงการ สมัครเข้าร่วมโครงการ และยื่นข้อเสนอการพัฒนาเพื่อขอรับการช่วยเหลืออุดหนุนได้ผ่านแพลตฟอร์ม BDS https://bds.sme.go.th (มีคู่มือการสมัครบนระบบ) 

เป้าหมาย

ผู้ประกอบการ SME ที่เป็นนิติบุคคล หรือเป็นบุคคลธรรมดาที่จดทะเบียนกับหน่วยงานภาครัฐ เช่น วิสาหกิจชุมชน หรือจดทะเบียนพาณิชย์ เน้นกลุ่มท่องเที่ยว / อาหาร-เครื่องดื่ม-ยา-สมุนไพร / New S-Curve / BCG / เกษตรแปรรูป ฯลฯ

คุณสมบัติผู้ประกอบการ SME ที่ขอรับความช่วยเหลือ อุดหนุน

• เป็น SME ตามที่กำหนดไว้ในกฎกระทรวงที่ออกตาม พรบ.ส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม พ.ศ.2543 และที่แก้ไขเพิ่มเติม และเป็นกลุ่มสาขาตามที่ สสว.กำหนดได้ขึ้นทะเบียนไว้กับ สสว.
• กรณีบุคคลธรรมดาต้องมีสัญชาติไทย/กรณีนิติบุคคลต้องมีจำนวนหุ้นของบุคคลสัญชาติไทยถืออยู่เกินกว่าร้อยละ 50 ของหุ้นที่จำหน่ายแล้วทั้งหมด
• ไม่เป็นบุคคลล้มละลาย หรือถูกศาลมีคำสั่งพิทักษ์ทรัพย์
• ไม่ประกอบกิจการที่ขัดต่อกฎหมายหรือศีลธรรมอันดี
• ไม่อยู่ระหว่างถูกเพิกถอนหรือตัดสิทธิการขอรับความช่วยเหลือการส่งเสริมหรือสนับสนุนจากเงินกองทุน
• ยื่นชำระภาษีตามกฎหมาย (มีสำเนารายการยื่นภาษีในปี 2562)
• มีคุณสมบัติ หรือไม่มีลักษณะต้องห้ามอื่นตามที่ สสว.กำหนด
• ประเภทบริการที่ยื่นข้อเสนอการพัฒนาสอดคล้องตามที่ สสว. กำหนด
ประเภทบริการและหมวดค่าใช้จ่ายที่สนับสนุนภายใต้มาตรการปี 2565
• การพัฒนาคุณภาพและมาตรฐานสินค้าและบริการ
• การพัฒนาช่องทางการจำหน่ายและการตลาด
• การพัฒนาตลาดต่างประเทศ

โดยการดำเนินการในปี 2565 จะเน้นการสนับสนุนใน 3 หมวดดังกล่าว โดยการพัฒนาคุณภาพและมาตรฐานสินค้าและบริการ เช่น ค่าใช้จ่ายเตรียมความพร้อมเข้าสู่มาตรฐาน / การประเมินสถานที่ ค่าใช้จ่ายในการตรวจวิเคราะห์ ประเมินต่าง ๆ / สอบเทียบเครื่องมือทุกประเภท ค่าใช้จ่ายในการขอมาตรฐาน ค่าใช้จ่ายเพื่อเตรียมความพร้อม ช่วยเหลือเพื่อให้ได้มาซึ่งการขึ้นทะเบียนใบรับรอง ใบอนุญาต หรือทะเบียนต่าง ๆ เพื่อใช้ในการประกอบธุรกิจตามที่กฏหมายกำหนด

ส่วนค่าใช้จ่ายในด้านการพัฒนาช่องทางการจำหน่ายและการตลาด และการพัฒนาตลาดต่างประเทศ เช่น ค่าคูหา ค่าเข้าร่วมกิจกรรมการเจรจาการค้าหรือจับคู่ธุรกิจ ฯลฯ เป็นต้น โดยผู้ประกอบการ SME สามารถเลือกดูบริการ และเปรียบเทียบราคาของบริการได้ผ่านระบบ

พื้นที่ดำเนินการ ทั่วประเทศ

ระยะเวลาดำเนินโครงการ สิ้นสุด 30 กันยายน 2565

การสมัครเข้าร่วมโครงการ สมัครเข้าร่วมโครงการ และยื่นข้อเสนอการพัฒนาเพื่อขอรับการช่วยเหลืออุดหนุนได้ผ่านแพลตฟอร์ม BDS https://bds.sme.go.th (มีคู่มือการสมัครบนระบบ) 

หรือสอบถามเพิ่มเติมได้ทาง Call Center 02-038-5858 

หรือศูนย์ให้บริการ SME ครบวงจร (OSS) ทุกจังหวัด



ข่าวสารจากที่คุณอาจสนใจ

สแกนเพื่อแอดไลน์

@smeconnext

สแกนเพื่อดาวน์โหลด

แอปพลิเคชั่น